MOGA Blog Archives - Page 3 of 9 - MOGA

Category: Blog

ผมแตกปลายเกิดจากอะไร แก้ไขอย่างไร

ไขข้อสงสัย ผมแตกปลายเกิดจากอะไร พร้อมวิธีดูแลที่ถูกต้อง

เบื่อไหม? กับปัญหา ‘ผมแตกปลาย’ ที่ทำให้ผมดูชี้ฟู ไม่มีน้ำหนัก ไม่ว่าจะจัดทรงอย่างไร ผมก็ยังดูแห้งกรอบ จนทำให้หลายคนหมดความมั่นใจ และต้องคอยตัดปลายผมทิ้งอยู่บ่อย ๆ แต่รู้หรือไม่ว่า ปัญหานี้เราสามารถแก้ไขได้ โดยไม่จำเป็นต้องตัดผมให้สั้น!

Read More
ทริคการเลือกทรงผมสไลด์ประบ่า

เปิดเคล็ดลับ! เลือกทรงผมทรงผมสไลด์ประบ่าให้เหมาะกับรูปหน้า

สาว ๆ คนไหนที่อยากเปลี่ยนลุคให้ดูดี ขอแนะนำทรงผมประบ่าที่กำลังเป็นที่นิยมของคนหลาย ๆ วัย ที่สำคัญสามารถรับกับใบหน้าได้หลายรูปแบบ ในบทความนี้ จะมาแจกทริกในการเลือกทรงผมสไลด์ประบ่า ทรงผมบ๊อบประบ่าสไลด์ปลาย ที่ช่วยเพิ่มมิติให้ใบหน้าดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

Read More
รวม Trends สีผมปรับผิวไบร์ทประจำปี 2024

3 เทรนด์ สีผมปรับลุคให้ผิวไบร์ทที่มาแรงในปี 2024

เรื่องของภาพลักษณ์และความสวยงามกับผู้หญิง เป็นของคู่กันที่ให้หยุดพัฒนาคงเป็นไปไม่ได้! นั่นทำให้ “สีผม” กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์และบุคลิกของแต่ละบุคคล โดยสีผลที่เหมาะกับบุคลิกนอกจากจะทำให้ดูดีขึ้นแล้ว ยังช่วยขับให้ผิวดูไบร์ท ซึ่งอาจพูดได้ว่า “สีผม” คือตัวกำหนดบุคลิกของผู้หญิงแต่ละคนเลยก็ว่าได้

Read More
ทรงผมชายเปิดข้าง วินเทจ แนะนำ

แนะนำ 5 ทรงผมชายวินเทจ หล่อเท่ฉบับปี 2024!

สำหรับสุภาพบุรุษท่านไหนที่ไว้ทรงผมเดิมมานาน จนส่องกระจกแล้วรู้สึกจำเจ นี่คือสัญญาณที่บอกชัดเจนว่าถึงเวลาแล้วสำหรับการเปลี่ยนทรงผม ซึ่งนอกจากจะเป็นการเปลี่ยนลุคให้กับตัวเองแล้ว ยังจะช่วยเติมความสดชื่นให้กับชีวิตอีกด้วย โดยหนึ่งในสไตล์ทรงผมผู้ชายที่ตัดแล้วรับประกันความเท่คือ ‘ทรงผมสไตล์วินเทจ’ ดังนั้น บทความนี้จึงจะมาแนะนำ 5 ทรงผมชายวินเทจ อัปเดตฉบับปี 2023 แต่จะมีไอเดียทรงผมที่จะเปลี่ยนลุคของเหล่าสุภาพบุรุษแบบไหนบ้าง ติดตามได้เลย

ทรงผมชายวินเทจ 2024 แนะนำ ตัดทรงผมไหนดี

Hair cut by Oku, MOGA Central Chidlom

1.ทรงผม French Crop

สำหรับ French Crop คือทรงผมที่ FashionBeans นิตยสารแฟชั่นผู้ชายระดับโลกได้ให้คำนิยามไว้ว่าเป็น ‘เสื้อเชิ้ตสีขาว’ กล่าวคือ นี่คือ ทรงผมชายเปิดข้างสไตล์วินเทจที่เข้ากับรูปหน้าทุกแบบได้อย่างลงตัว เหมือนกับเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ไม่ว่าใครสวมใส่ก็ดูดีได้ง่าย ๆ 

นอกจากนั้น  French Crop ยังเป็นทรงผมชายเปิดข้างสไตล์วินเทจที่ไม่ต้องดูแลอะไรมาก เหมาะสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์สายลุย ไม่ว่าจะเข้าฟิตเนส ว่ายน้ำ หรือปาร์ตี้ เพราะไม่ต้องใช้ ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมใด ๆ เพียงแค่สระผมแล้วปล่อยให้ผมเข้าที่อย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม หากต้องการความโฉบเฉี่ยวที่เพิ่มขึ้น ให้ลองใช้สเปรย์ฉีดผมในปริมาณเล็กน้อย จากนั้นก็ใช้มือจัดแต่งตามต้องการ เพียงเท่านี้ก็ดูดีมีสไตล์แล้ว

2.ทรงผม Slick Back

จากจุดเริ่มต้นในช่วงปีค.ศ.1920 ผ่านไปกว่าหนึ่งศตวรรษ กระทั่งปัจจุบัน Slick Back ก็ยังคงเป็นทรงผมชายวินเทจที่ได้รับความนิยมในปีค.ศ. 2023 นี่คือหลักฐานยืนยันถึงความคลาสสิกเหนือกาลเวลาอย่างแท้จริง 

ทรงผม Slick Back เหมาะสำหรับคุณสุภาพบุรุษที่มีเส้นผมตรง เนื่องจากยิ่งเส้นผมหยักศกมากเท่าไร ก็ยิ่งยากที่จะหวีให้เรียบตรงไปด้านหลัง ส่วนรูปหน้าที่เข้ากับทรงผมชายเปิดข้างสไตล์วินเทจทรงนี้ก็หลากหลาย แต่ถ้าคุณเป็นคนที่หน้ารูปไข่หรือกลม แนะนำให้ไว้หนวดเคราคู่ไปด้วยเพื่อเพิ่มมิติของใบหน้า 

ในการจัดแต่งทรงผม ให้เริ่มจากเป่าผมด้านหลังให้แห้ง โดยหากต้องการ ‘Wet Look’ สไตล์คลาสสิกให้ใช้โพเมดสูตรน้ำและหวีให้ทั่วเมื่อผมเปียกหมาด ๆ แต่ถ้าต้องการลุคที่สบาย ๆ ให้ใช้โพโมดสูตรน้ำมัน ตามด้วยใช้มือจัดแต่งโดยที่ไม่ต้องเน้นความเป๊ะมากนัก

3.ทรงผม Side Parting

อีกหนึ่งทรงผมชายเปิดข้างสไตล์วินเทจที่ได้รับความนิยมมานานนับศตวรรษ โดยยุคที่เฟื่องฟูที่สุดของ Side Parting คือในช่วงปีในปีค.ศ. 1960 เนื่องจากเป็นทรงผมที่สามารถจัดแต่งได้ง่ายกว่า Slick Back แต่ให้ลุคที่คลาสสิกและดูดีไม่แพ้กัน  

Side Parting คือการตัดผมสั้นด้านหลังและด้านข้าง จุดเด่นคือเป็นทรงที่เหมาะกับหลากสภาพเส้นผม หลายรูปหน้า เรียกได้ว่าใครตัดก็รอด ส่วนวิธีที่ดีที่สุดในการจัดแต่งทรงผมคือใส่ผลิตภัณฑ์โพเมดลงบนผมขณะผมหมาด และใช้หวีเสยผม ทริกสำคัญคือการกำหนดจุดที่จะแสกผมตามรอยธรรมชาติอย่างพอดี 

4.ทรงผม Pompadour

จากยุคที่เสียงเพลง Elvis Presley ครองเมือง สู่ปัจจุบัน Pompadour ยังคงเป็นทรงผมชายวินเทจที่ได้รับความนิยมในปีค.ศ. 2023 อย่างไม่เสื่อมคลาย 

ทรงผม Pompadour เหมาะกับรูปหน้าแทบทุกแบบ โดยหากคุณมีหน้าแคบ ก็สามารถไว้ผม Pompadour เพื่อเสริมความกว้างของใบหน้าได้ หรือหากมีใบหน้าที่กลม ก็ควรแสกผมด้านข้างของศีรษะลงมาเพื่อให้รูปหน้าดูเล็กลง อย่างไรก็ตาม สุภาพบุรุษที่จะตัดทรงนี้ควรที่จะมีเส้นผมที่หนาในระดับหนึ่ง เพื่อให้สามารถจัดแต่งขึ้นทรงได้อย่างสะดวก

เพื่อให้ได้ทรงผม Pompadour ที่ถูกต้อง ให้เริ่มจากการไว้ผมด้านหน้าให้ยาว และเมื่อผมด้านหน้ายาวประมาณสามนิ้วแล้ว คุณจะสามารถสร้างความสูงให้กับทรงผมได้ โดยให้ใช้ไดร์เป่าผมหลังจากใส่มูสผมสำหรับผู้ชาย จากนั้นดึงผมขึ้นขณะที่คุณเป่าผมเพื่อสร้างการยกรากผม และเมื่อเส้นผมใกล้จะแห้งแล้ว ให้ใช้ปลายนิ้วหรือแปรงหวีผมเพื่อให้ปลายผมมีความพลิ้วไหวมากขึ้น 

ทรงผมชายเปิดข้าง วินเทจ แนะนำ

Haircut by Aom, MOGA Paragon

5.ทรงผม Quiff

Quiff เป็นทรงผมชายเปิดข้างสไตล์วินเทจที่เหมาะกับหลากหลายรูปหน้าเช่นเดียวกับทรง Pompadour เพียงแต่ผู้ที่มีไรผมร่นอาจต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเป็นพิเศษ เนื่องจากมีการเปิดหน้าผากมาก โดยทรงผม Quiff มีทั้งแบบคลาสสิกและโมเดิร์น สำหรับแบบคลาสสิก การไล่เลเยอร์ระหว่างผมกลางศีรษะกับด้านหลังจะค่อนข้างแนบเนียน ไม่เห็นรอยต่อ ตรงกันข้ามกับแบบร่วมสมัยที่จะโฉบเฉี่ยวมากกว่า 

ในการจัดแต่งทรงผม ให้ใช้ผลิตภัณฑ์แบบเปียก หรือ Water Based กับผมที่แห้งหมาด ๆ แล้วหวีให้ทั่ว จากนั้น เป่าผมให้แห้งโดยใช้ไดร์เป่าผมที่ตั้งค่าอุณหภูมิสูงสุดและความเร็วต่ำสุด พร้อม ๆ กัน และใช้หวีเพื่อจัดทรงตามต้องการ แต่อย่าลืมปิดท้ายด้วยใช้สเปรย์ฉีดผมเพื่อให้อยู่ทรงนานยิ่งขึ้นด้วย

ตัดทรงผมชายวินเทจ  ไม่ตกเทรนด์ปี 2024 ต้องที่ MOGA

ตัดทรงผมชายวินเทจ  ไม่ตกเทรนด์ปี 2024 ต้องที่ MOGA

ถึงตรงนี้ หากสุภาพบุรุษท่านไหนอยากตัดทรงผมชายวินเทจ 2024 รวมถึงทรงอื่น ๆ แนะนำที่ MOGA ร้านตัดผมชายและหญิง โดยช่างทำผมสไตล์ญี่ปุ่น มีหลากหลายบริการ ทั้งยืด ดัดวอลุ่มตรงโคน หรือทำ Down Perm สร้างสรรค์ทรงผมผู้ชาย นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์สำหรับจัดแต่งทรงผมผู้ชายที่คัดสรรมาจากผลิตภัณฑ์ชั้นนำมาจากทั่วโลก รวมถึงอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมไฟฟ้าที่จะช่วยให้คุณแต่งทรงผมได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ ที่บ้าน โดยสามารถนัดหมายล่วงหน้าเพื่อเข้าใช้บริการได้ทุกสาขา ทั้งที่ Central Embassy, Siam Paragon, CentralWorld, Emquartier®, Iconsiam, Central Chidlom  หรือติดต่อขอรับคำแนะนำการดูแลเส้นผมจากช่างผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยที่ LINE: @MOGA

4 วิธีการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แชมพู สำหรับคนหนังศีรษะแห้งแพ้ง่าย

ปัญหาหนังศีรษะแห้งแพ้ง่าย

ใครที่มีปัญหาไม่ว่าจะใช้แชมพูตัวไหน ก็ทำให้หนังศีรษะแห้ง ลอกและเป็นตุ่ม อาจเป็นเพราะมีปัญหาสุขภาพหนังศีรษะแห้งแพ้ง่าย หรือที่เรียกกันว่า Sensitive Scalp ซึ่งวิธีแก้ไขก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ที่ต้องเริ่มจากตัวเรา อย่างการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยนต่อหนังศีรษะและเส้นผมเป็นอันดับแรก ซึ่งในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จักกับอาการที่บ่งบอกถึง “การแพ้ยาสระผม” ว่ามีลักษณะอย่างไร รวมถึงจะมาแนะนำวิธีเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับคนที่มีหนังศีรษะแห้งแพ้ง่าย แบบฉบับร้านซาลอนพรีเมียม ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ติดตามได้เลย 

รู้ทัน “อาการแพ้แชมพูสระผม”เกิดจากอะไร?!

อาการแพ้แชมพูสระผม เป็นปัญหาผิวแพ้สารเคมีประเภทหนึ่ง เกิดจากผิวที่มีความอ่อนแอ หรือ มีลักษณะผิวแพ้ง่าย (Sensitive Scalp) ทำให้ไวต่อปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ เช่น อากาศที่เปลี่ยนแปลง ฮอร์โมน อาการหลังการทำสีผม หรือการใช้ยาสระผมที่มักมีส่วนผสมของน้ำหอม และสารเคมีชนิดต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อหนังศีรษะ ทำให้ผิวหนังศีรษะแห้งแพ้ง่าย จนเกิดการอักเสบ ผื่นแดง สะเก็ด อาการบวม แสบร้อน หรือเกิดตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นได้

อาการแพ้ยาสระผม สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วหนังศีรษะ หรือบางครั้ง อาจเกิดขึ้นบริเวณกรอบหน้า บนผิวหน้า หรือแผ่นหลัง จนทำให้เกิดผด หรือ สิวขึ้น เป็นต้น

4 วิธีเลือกผลิตภัณฑ์แชมพูสระผม สำหรับคนหนังศีรษะแห้งแพ้ง่าย

1.หลีกเลี่ยงสารเคมีที่มักจะทำให้เกิดอาการแพ้

คนที่มีปัญหาหนังศีรษะแห้งแพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงการใช้แชมพูสระผมที่มีสารประกอบจาก ซัลเฟตหรือโซเดียมลอริลซัลเฟต (SLS) โซเดียมลอริลซัลเฟต (SLES) ฟอร์มาลดีไฮด์ (Formaldehyde) พาราเบน (Parabens) เฮกซะคลอโรฟีน (Hexachlorophene) และ พาทาเลต (Pthalate) ที่มักทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง หนังศีรษะลอก หรือทำให้แสบตาได้

2.เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH อยู่ระหว่าง 5-6.5

ผลิตภัณฑ์แชมพูสระผมทั่วไปในท้องตลาด จะมีค่า pH อยู่ที่ 8 ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ที่มีผิวหนังศีรษะแห้งแพ้ง่ายเกิดความระคายเคือง หรือทำให้หนังศีรษะมีรังแค รวมถึงผมแห้งกรอบได้ ดังนั้น ขอแนะนำให้เลือกใช้แชมพูสระผมที่มีค่า pH อยู่ระหว่าง 5 – 6.5 ซึ่งเป็นค่ากรดอ่อน ๆ ที่มีความใกล้เคียงกับค่าปกติของสภาพหนังศีรษะและเส้นผม จึงไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง หรือเส้นผมชี้ฟูแห้งกระด้าง 

3.ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอม อาจไม่ได้ดีเสมอไป

อย่าเพิ่งตัดสินใจซื้อ เพียงเพราะเห็นคำโฆษณาที่ว่า “เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอม” เท่านั้น ขอแนะนำให้ตรวจสอบส่วนประกอบให้แน่ใจเสียก่อน เพราะการ “ไม่มีกลิ่น” หรือ “ปราศจากน้ำหอม” ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีสารอันตรายที่ทำร้ายเส้นผม เพราะอาจมีสารสกัดจากพืชหรือน้ำมันหอมระเหยที่สามารถทำให้เกิดความระคายเคืองต่อผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายได้ ดังนั้น ควรตรวจสอบให้มั่นใจ ก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้งานจริง

4.ผลิตภัณฑ์แชมพูสระผมออร์แกนิก ไม่ได้หมายความว่าโอกาสการแพ้น้อยลง

การเลือกใช้แชมพูสระผมออร์แกนิกไม่ได้หมายความว่าจะมีโอกาสการแพ้น้อยลงเสมอไป เพียงเพราะส่วนผสมในแชมพูมีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว อาการแพ้มักเกิดจากส่วนผสมบางชนิดที่อยู่ในแชมพู ซึ่งในบางครั้งก็เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น สมุนไพรบางประเภท ก็อาจทำให้เกิดการแพ้ได้ ดังนั้นควรสอบถามและดูฉลากให้ดีก่อนซื้อเสมอ 

 

แนะนำ3 แชมพูสำหรับคนหนังศีรษะแห้งแพ้ง่าย สำหรับปี 2024

1.MOGA Pro Care Shampoo 

ผลิตภัณฑ์แชมพูที่เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาหนังศีรษะแห้งแพ้ง่าย ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ พืชพรรณ และสมุนไพรถึง 93% เช่น Rosa multiflora, Coptis Root, Sansho peel เป็นต้น ที่ช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะและเส้นผมได้อย่างล้ำลึก พร้อมช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบนหนังศีรษะ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่เส้นผม และยังช่วยซ่อมแซมความเสียหายของเส้นผม เพื่อให้เส้นผมและหนังศีรษะกลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง 

2.AVEDA Rosemary Mint Shampoo

หนังศีรษะแห้ง ลอก ใช้อะไรดี? ขอแนะนำแบรนด์ Aveda สูตร Rosemary Mint ที่มีประสิทธิภาพการทำความสะอาดหนังศีรษะอย่างล้ำลึก ลดอาการคัน และบำรุงเส้นผมอย่างอ่อนโยน ทำให้เส้นผมสุขภาพดี มาพร้อมกลิ่นหอมละมุนของโรสแมรีออร์แกนิกและเปปเปอร์มินต์ที่ผ่านการรับรอง พร้อมด้วยกลิ่นดอกไม้บริสุทธิ์และเอสเซ้นส์จากพืชหลากหลายชนิด ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้ตลอดวัน

3.Davines Calming Shampoo

ผลิตภัณฑ์แชมพูสระผมสูตรอ่อนโยนที่เหมาะกับผู้ที่มีหนังศีรษะแห้งแพ้ง่าย บอบบางและระคายเคืองได้ง่าย ด้วยส่วนประกอบจากธรรมชาติ อุดมด้วยวิตามินซีและบี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นต่อสุขภาพเส้นผม ทั้งยังช่วยปกป้องหนังศีรษะให้กลับมามีสุขภาพดี พร้อมเสริมรากฐานที่แข็งแรงให้กับเส้นผม นอกจากนี้ ยังมีส่วนผสมของบลูเบอร์รีที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและการระคายเคือง ช่วยปลอบประโลมหนังศีรษะที่บอบบางและแพ้ง่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

สำหรับคนที่เจอปัญหาหนังศีรษะแห้งแพ้ง่าย หรืออยากแก้ปัญหาผมเสียมากใช้อะไรดี สามารถเข้ามาปรึกษากับช่างผมของ MOGA ร้านซาลอนพรีเมียมสไตล์ญี่ปุ่น ที่ดูแลผมคุณด้วยความใส่ใจ พร้อมด้วยช่างที่มากประสบการณ์ สามารถให้คำแนะนำในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับเส้นผมและหนังศีรษะของคุณได้ สามารถไปใช้บริการได้ทุกสาขา ทั้งที่ Central Embassy, Siam Paragon, CentralWorld, Emquartier, Iconsiam, Central Chidlom หรือติดต่อขอรับคำแนะนำการดูแลเส้นผมจากช่างผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยที่ LINE: @MOGA

รู้ทัน! ทำไมปัญหาหนังศีรษะมัน ถึงทำให้ผมมันง่าย พร้อม 3 วิธีการดูแล

ปัญหาหนังศีรษะมัน ผมมันง่าย

สำหรับคนที่ต้องเจอกับปัญหาหนังศีรษะมัน ผมมันง่าย การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ยาสระผมที่มีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ แต่จำเป็นจะต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับต่อมไขมันบนหนังศีรษะ เพื่อช่วยลดการผลิตน้ำมันให้ออกมาน้อยลงด้วย  

ในบทความนี้ เราจะพาไปรู้จักกับปัญหาผมมัน ว่ามีสาเหตุเกิดจากอะไร และควรดูแลอย่างไรเพื่อให้เส้นผมกลับมามีสุขภาพแข็งแรงเงางาม รวมถึงไปรู้ถึงข้อแนะนำในการเลือกใช้แชมพูสำหรับคนผมมันง่าย ว่าเลือกใช้อย่างไรถึงจะเหมาะสมที่สุด 

ทำไมปัญหาหนังศีรษะมัน ถึงทำให้ผมมันง่าย?

ปัญหาหนังศีรษะมัน ผมมันง่าย เป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพผมที่พบได้บ่อยมากที่สุด เพราะโดยปกติแล้ว ต่อมไขมันบริเวณหนังศีรษะจะผลิตน้ำมันออกมา เพื่อปกป้องไม่ให้หนังศีรษะขาดความชุ่มชื้น และช่วยให้เส้นผมไม่ชี้ฟู แต่หากต่อมไขมันบริเวณหนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมามากผิดปกติ ก็จะทำให้เส้นผมมันมากขึ้น และหากผสมเข้ากับเหงื่อและสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ตามเส้นผม ก็อาจนำไปสู่ปัญหารังแคตามมาได้ โดยสาเหตุที่ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันบนหนังศีรษะมากผิดปกติ เกิดได้จากสาเหตุเหล่านี้

  • การสระผมบ่อยเกินไป 
  • การปล่อยให้หนังศีรษะและเส้นผมอับชื้นอยู่บ่อยครั้ง
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงมีประจำเดือน หรือช่วงที่ตั้งครรภ์
  • การใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมบ่อย ๆ
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพหนังศีรษะและเส้นผม

3 วิธีดูแล ในการลดปัญหาหนังศีรษะมัน ผมมันง่าย

1.ไม่สระผมบ่อยจนเกินไป

การสระผมบ่อย ๆ ถึงแม้ว่าจะช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินบนเส้นผมออกได้ แต่ก็ทำให้หนังศีรษะสูญเสียน้ำมันและความชุ่มชื้นตามธรรมชาติออกไปด้วย จึงทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น ควรเลือกความถี่ในการสระผมแต่พอดี ไม่สระผมบ่อยจนเกินไป เช่น การสระแบบวันเว้นวัน หรือ 2 – 3 วันสระครั้ง เป็นต้น

2.ดูแลหนังศีรษะและเส้นไม่ให้อับชื้น

หลังสระผมเสร็จ ควรใช้ผ้าค่อย ๆ เช็ดเส้นผมให้แห้ง หรือใช้ไดร์อุ่นเป่าหนังศีรษะและเส้นผม เพื่อป้องกันความอับชื้นบริเวณหนังศีรษะที่อาจเกิดขึ้น  

3.การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับหนังศีรษะและเส้นผม

ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่มีหนังศีรษะมันและผมมันง่ายโดยเฉพาะ ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติด้านการทำความสะอาดอย่างล้ำลึก ที่สามารถช่วยกำจัดความมันส่วนเกินบนเส้นผม นอกจากนี้ ยังควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมที่ไม่ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะมันมากกว่าเดิมด้วย 

4 เทคนิคการเลือกแชมพูสระผมสำหรับคนหนังศีรษะมัน ผมมันง่าย

  • หลีกเลี่ยงแชมพูที่มีสารเคมีที่ไม่จำเป็น : ไม่ใช้แชมพูที่มีสารอย่าง ซิลิโคน สารโซเดียมลอริลซัลเฟต (SLS) หรือพาราเบน เพราะจะทำให้หนังศีรษะและเส้นผมแห้งมากกว่าเดิม ส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ ทำให้เกิดผมมันได้ง่าย 
  • เลือกใช้แชมพูที่ปราศจากน้ำมันดิน : แนะนำให้เลือกใช้แชมพูที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันดิน และน้ำมันถ่านหิน ก็จะช่วยลดการระคายเคืองและอาการหนังศีรษะแห้งได้ อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาต่อมไขมันทำงานบกพร่องได้อีกด้วย 
  • เลือกแชมพูสระผมสูตรอ่อนโยน ที่มีค่า pH ที่สมดุล : การเลือกใช้แชมพูที่มีค่า pH อยู่ระหว่าง 5-6.5 จะเป็นสูตรที่อ่อนโยนต่อหนังศีรษะและเส้นผม และสามารถช่วยรักษาสมดุลของน้ำมันบนหนังศีรษะ จึงช่วยลดการเกิดน้ำมันส่วนเกินบนเส้นผม ลดปัญหาผมมันง่ายได้เป็นอย่างดี
  • เลือกแชมพูที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ : เลือกใช้แชมพูออร์แกนิก ที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันบริเวณรูขุมขนบนหนังศีรษะได้ โดยอาจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติอย่าง ส้ม เลมอน น้ำมันมะพร้าว ว่านหางจระเข้ และสารสกัดจากสมุนไพรอื่น ๆ เป็นหลัก ที่สามารถช่วยกำจัดน้ำมันส่วนเกินออกไปได้ 

แนะนำแชมพูสำหรับผมร่วง ผมมัน

แนะนำ 3 แชมพูสำหรับคนที่มีปัญหาผมร่วง ผมมัน

1.AVEDA Scalp Solutions Balancing Shampoo

ผลิตภัณฑ์แชมพูสระผมสูตรอ่อนโยน สำหรับคนผมมันง่าย ที่ประกอบด้วยสกัดจากธรรมชาติถึง 94% มีประสิทธิภาพช่วยขจัดความมันส่วนเกิน สิ่งสกปรก และมลภาวะออกจากเส้นผมและหนังศีรษะ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของหนังศีรษะ มาพร้อมกลิ่นซิตรัสอโรมาหอมสะอาด และกลิ่นดอกไม้อ่อน ๆ ของดอกเนโรลี ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ทุกครั้งที่สระผม

2.MILBON Scalp Purifying Gel Shampoo

MILBON Scalp Purifying Gel Shampoo แชมพูสระผมสูตรเจล ที่ได้รับการพัฒนาให้มีเนื้อฟองละเอียด สามารถเข้าขจัดน้ำมันส่วนเกินบนหนังศีรษะและเส้นผมได้อย่างล้ำลึก ลดการอุดตันของสิ่งสกปรกและไขมันบริเวณรากผม พร้อมช่วยปรับสมดุลหนังศีรษะให้แข็งแรง มีสุขภาพดี

3.Davines Rebalancing Shampoo 

แชมพูสำหรับคนผมมัน ที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ มีคุณสมบัติช่วยขจัดและปรับสมดุลความมันส่วนเกินให้อยู่ในสภาวะปกติ โดยไม่ทำให้หนังศีรษะและเส้นผมแห้ง มาพร้อมกลิ่นหอมของออยล์ที่ได้จาก Camomile Cedarwood และ Japanese Green Tea ที่ทำให้ทุกการสระผมรู้สึกถึงความผ่อนคลายเหมือนไปทำสปา

ปัญหาหนังศีรษะมันมักทำให้ผมมันง่ายขึ้น แต่ก็สามารถแก้ไขได้หากดูแลอย่างถูกวิธี แต่สำหรับใครที่ต้องการปรับสภาพผมให้มีสุขภาพที่แข็งแรงยาวนาน สามารถมาปรึกษากับช่างผมได้ที่ MOGA ร้านซาลอนญี่ปุ่นที่ดูแลผมคุณด้วยความใส่ใจ เรามีผลิตภัณฑ์แชมพูสำหรับผมร่วง ผมมัน ที่มีส่วนประกอบจากธรรมชาติ ช่วยทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก ลดปัญหาผมมันและการขาดร่วงได้เป็นอย่างดี สามารถเข้าใช้บริการได้ทุกสาขา ทั้งที่ Central Embassy, Siam Paragon, CentralWorld, Emquartier, Iconsiam, Central Chidlom หรือติดต่อขอรับคำแนะนำการดูแลเส้นผมจากช่างผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยที่ LINE: @MOGA

ดูแลผมด้วยทรีทเมนต์บำรุงผมทำสี

เปิด 4 วิธีบํารุงผมเสียจากการทําสี เพื่อผมสุขภาพดี สีคงทน

ไม่ว่าใครก็อยากมีผมสวยงามดูดีเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ในช่วงหลายปีมานี้ เทรนด์ผมสวยหลากสีเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจ แม้ขั้นตอนการทำจะไม่ยุ่งยาก แต่การจะดูแลหลังจากนั้นคือสิ่งที่ต้องให้ความใส่ใจ เพราะหากดูแลไม่ดีอาจทำให้ผมเสียได้ สำหรับใครที่กำลังกังวลเพราะผมที่ทำสีมาเริ่มชี้ฟูและหลุดร่วงง่าย เราได้รวบรวมวิธีบำรุงผมเสียที่เกิดจากการทำสีมาฝากกันไว้ที่นี่แล้ว

ทำไมผมถึงเสียจากการทำสี

เจาะสาเหตุ! ทำไมผมเสียจากการทำสี?

สาเหตุที่ผมเสียแห้งกรอบจากการทำสี เพราะในน้ำยาย้อมสีผมหรือน้ำยากัดสีผม มีสารเคมีที่มีความเป็นกรดและเป็นด่างเป็นองค์ประกอบ ส่งผลให้รากผมและเส้นผมอ่อนแอ มีลักษณะแห้ง กรอบ ขาดความชุ่มชื้น เงางาม ซึ่งการใช้น้ำยาฟอกจะขึ้นอยู่กับการประเมินเส้นผมของช่าง หากเส้นผมก่อนการทำสีไม่แข็งแรง จะทำให้ผมมีโอกาสขาดง่ายในระหว่างหรือหลังทำสี ซึ่งในบางกรณีอาจได้รับคำแนะนำจากช่างทำผม ให้ใช้สีกึ่งถาวร เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเส้นผม จึงเป็นเหตุผลที่ควรบำรุงผมให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถทำสีผมได้อย่างราบรื่นและออกมาสวยสุขภาพดี

ส่อง4 สัญญาณผมเสีย ที่เกิดจากการทำสี

หากต้องการตรวจสอบสภาพผมเสียที่เกิดจากการทำสี สามารถสังเกตได้ทันทีหลังจากการสระผมครั้งแรก ว่าสุขภาพเส้นผมต่างจากเดิมไปมากน้อยแค่ไหน โดยสามารถเช็กได้จากอาการเหล่านี้

1.ผมแตกปลาย

สิ่งแรกที่สังเกตได้ง่ายที่สุด คือปลายผมที่แตกเป็นแฉกสองแฉกหรือมากกว่านั้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของสัญญาณเตือนของผมเสีย ทำให้หลาย ๆ คนมักเลือกตัด หรือเล็มส่วนปลายที่แตกออก แต่นั่นเป็นเพียงการแก้ปัญญาหาระยะสั้นเท่านั้น เพราะหากไม่ได้รับการบำรุงรักษา เมื่อผมเริ่มยาวขึ้นก็จะกลับมาแตกปลายเช่นเดิม  

2.ผมแห้งฟู ไม่มีน้ำหนัก

หลายคนอาจดีใจเมื่อผมที่ม้วนไว้จะคงทนอยู่ทรงนาน แต่รู้ไหมว่านี่คือสัญญาณเตือนของผมเสีย เนื่องจากผมที่แห้งฟูไร้น้ำหนักจะจัดทรงง่ายกว่าและอยู่ตัว แต่ผมที่นุ่มลื่นสวยจะพร้อมคืนตัวเสมอ นอกจากนี้ เมื่อผมแห้งฟูไม่มีน้ำหนักสิ่งที่ตามมาจะกลายเป็นปัญหามากมาย ทั้งผมเปราะ ขาด และผมชี้ฟูไม่เป็นทรง

3.ผมเปราะบาง ขาดง่าย

วิธีเช็กที่ง่ายที่สุดก็คือ การจับยืดเส้นผมเพื่อดูว่ามีความยืดหยุ่นอยู่หรือไม่ หากลองแล้วผมขาด หรือมีอาการเปราะบางจากการสางผมทั่วไปโดยไม่ได้ออกแรงดึงมาก สิ่งนี้อาจบ่งบอกได้ถึงปัญหาเส้นผมในขั้นวิกฤติที่ต้องรีบบำรุงโดยด่วน

4.ผมลีบแบน แข็งทื่อ

ผมที่ลีบแบนติดหนังหัวดูไม่พลิ้วไหว เมื่อเคลื่อนไหวก็ดูแข็งทื่อไม่เป็นธรรมชาติจนทำให้ดูไม่สวยงาม ก็สามารถบ่งบอกได้เช่นกันว่า ผมที่ทำสีต้องได้รับการบำรุงโดยด่วนแล้ว 

แนะนำ 4 วิธีบํารุงผมเสียจากการทําสี

1.หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อน

การม้วน การไดร์ หรือการหนีบ ล้วนเป็นการใช้ความร้อนที่ทำลายเกร็ดปกป้องเส้นผม โดยเฉพาะกับเส้นผมทำสีที่มีความอ่อนแอกว่าปกติ ยิ่งใช้ความร้อนที่สูงมากจะยิ่งเป็นการทำร้ายเส้นผม แต่หากต้องการใช้ความร้อนกับเส้นผม ควรใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมก่อนโดนความร้อนเสียก่อน และควรใช้เครื่องไดร์ผมในอุณหภูมิกลางจนถึงต่ำ ที่สำคัญไม่ควรใช้เครื่องหนีบ หรือม้วน ในตอนที่ผมยังไม่แห้งดี 

2.หลีกเลี่ยงการทำเคมีอย่างน้อย 3 เดือน

หยุดทำสี ยืด ดัด อย่างน้อย 3 ถึง 6 เดือน เพราะเป็นกระบวนการที่ต้องใช้สารเคมีกับเส้นผม จึงควรหลีกเลี่ยงเพื่อให้เส้นผมได้ปรับสภาพ พร้อมกับการบำรุงเพื่อฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมาแข็งแรง 

3.ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสี

สำหรับคนที่ทำสีผมเป็นประจำ ย่อมรู้ดีว่าการบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสีโดยเฉพาะเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งหากเป็นผู้ที่มีผมสีอ่อน หรือมีผมสีบลอนด์ควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสีโดยเฉพาะ เช่น แชมพูม่วง ซึ่งมีสรรพคุณในการป้องกันไม่ให้สีผมเปลี่ยน ช่วยลดความเหลืองของเส้นผม ทำให้โทนสีผมมีความสวยยาวนาน ควบคู่ไปกับการใช้ครีมหมักผม เคราติน หรือทรีทเมนต์บำรุงผมทำสี ที่จะช่วยบำรุงผมเสียจากการทำสีที่ผ่านการกัดให้กลับมาแข็งแรง เพราะยิ่งผมอ่อนแอเท่าไร แสดงว่าต้องผ่านขั้นตอนที่ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในการกัดผมจนเกิดความเปราะบางมากขึ้นเท่านั้น

ดูแลผมด้วยทรีทเมนต์บำรุงผมทำสี

แนะนำ! 3 ผลิตภัณฑ์เพื่อผมสุขภาพดีสำหรับคนทำสีผม

หลังทำสีผมใหม่ ๆ อาจทำให้เส้นผมมีความแห้งเล็กน้อยในช่วงแรก ๆ แต่สามารถบำรุงเพื่อคืนสภาพ pH  ให้กับหนังศีรษะและเส้นผม ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลสีผมให้อยู่ทนในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก หลังจากนั้นก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูสภาพเส้นผม เช่น ทรีทเมนต์บำรุงผมทำสีเพื่อดูแลให้ผมกลับมาสวยงามเปล่งประกายได้ ด้วยผลิตภัณฑ์แนะนำ เหล่านี้

1.Aveda Color Control Shampoo

แชมพูมังสวิรัติ 100% ที่ปราศจากซิลิโคน จึงช่วยทำความสะอาดเส้นผมได้อย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำให้สีผมหลุดลอก และด้วยสารสกัดจากพืชจึงช่วยลดการซีดจางของสี อีกทั้งยังมีส่วนผสมของน้ำมันแอปริคอตที่อุดมด้วยโอเมก้า ช่วยบำรุงให้เส้นผมของคุณนุ่มสลวย ชุ่มชื้น

2.Milbon Repair Restorative Treatment

ทรีทเมนต์บำรุงผมทำสีที่ซ่อมแซมและเสริมสร้างเส้นผมสูตรพิเศษสำหรับผมเสียอย่างรุนแรงที่ผ่านการทำสี ดัด ยืด มาอย่างหนักหน่วง โดยเทคโนโลยี Dual-Repair ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่สามารถบำรุงได้อย่างล้ำลึกให้ผมกลับมายืดหยุ่นและฟื้นคืนสภาพใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเคราติน Cationized ที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากความเสียหาย

3.System Professional Color Save Mask

มาส์กบำรุงและปกป้องสีผมเข้มข้นเพื่อช่วยให้สีผมอยู่ได้นานคงทน อีกทั้งยังเป็นการบำรุงผมให้ชุ่มชื้น เงางาม จัดทรงง่าย จึงสามารถช่วยดูแลผมที่ผ่านการทำสีให้มีสุขภาพดี พร้อมช่วยปกป้องโครงสร้างเคราตินโดยการลดอนุมูลอิสระในน้ำ ทำให้ป้องกันการเปลี่ยนสีผมได้อีกด้วย  

ป้องกันผมเสียที่เกิดจากการทําสีได้ง่าย ๆ เพียงปรึกษากับช่างผมจาก MOGA ร้านซาลอนญี่ปุ่นที่ดูแลผมคุณด้วยความใส่ใจ พร้อมช่างที่มากประสบกาณ์ ที่ไม่เพียงแค่ทำสีผมสวย แต่ยังใส่ใจเส้นผมของคุณ ด้วยการช่วยดูแลและให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีบํารุงผมเสียจากการทําสี พร้อมผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและช่วยปกป้องเส้นผมของคุณ โดยสามารถเข้ามาใช้บริการได้ทุกสาขา ทั้งที่ Central Embassy, Siam Paragon, CentralWorld, Emquartier®, Iconsiam, Central Chidlom  หรือติดต่อขอรับคำแนะนำการดูแลเส้นผมจากช่างผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยที่ LINE: @MOGA

 

ข้อมูลเกี่ยวกับการเฟดของสีและการดูแลรักษาผมทำสี

ข้อมูลเกี่ยวกับการเฟดของสีและการดูแลรักษาจากช่างทำผมมืออาชีพ

ทำสีผมครั้งแรกต้องรู้อะไรบ้าง? เชื่อว่าสาว ๆ รวมถึงหนุ่ม ๆ หลายคนที่อยากเปลี่ยนลุคให้ดูดี นอกจากการเปลี่ยนทรงผมแล้ว การทำสีผมใหม่ก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยม เพราะสามารถเปลี่ยนลุคให้ดูสวย หล่อ และมีสไตล์มากขึ้น แต่สำหรับคนที่ทำสีผมครั้งแรกแต่ยังลังเลใจว่าจะทำดีไหม หรือจะเลือกสีไหนดี รวมถึงเมื่อทำเสร็จแล้วควรจะมีวิธีดูแลอย่างไรให้สีผมอยู่ได้นานที่สุด? วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับการเฟดของสี และการดูแลรักษา ซึ่งเป็นข้อแนะนำดี ๆ จากพี่ ๆ ช่างทำผมมืออาชีพมาให้ได้รู้กัน

Read More
Summer hair care ดูแลผมหน้าร้อน

ผมสวยไม่กลัวแดดด้วย Summer Hair Care

Summer แล้วถึงเวลาหยิบชุดว่ายน้ำมาถ่ายรูปสวย ๆ ริมหาด แต่คงไม่ดีแน่ หากว่าแสงแดดและความร้อนทำร้ายเส้นผมของเราจนทำให้ผมแห้งเสียและชี้ฟู อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งกังวลใจไป เพราะบทความนี้จะมาแนะนำ Summer Hair Care เทคนิคการดูแลเส้นผมในช่วงหน้าร้อนฉบับเข้าใจง่าย แถมยังสะดวกในการนำไปปรับใช้ที่สามารถทำตามได้ที่บ้าน ส่วนจะมีวิธีไหนบ้าง ติดตามในบทความนี้ได้เลย

ปกป้องเส้นผมจากแสงแดดและรังสียูวี

สำหรับ Summer Hair Care วิธีแรก เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่เรียบง่ายแต่ได้ผลที่สุดก็ว่าได้ นั่นก็คือการปกป้องไม่ให้เส้นผมโดนแสงแดดและรังสียูวี ด้วยการสวมหมวกหรือกางร่มก่อนออกไปเจอแดดร้อนด้านนอก เพราะแสงแดดคือศัตรูตัวฉกาจที่ทำร้ายเส้นผมอย่างมาก โดยเฉพาะความร้อนแรงของแดดหน้าร้อน การได้รับแสงแดดเป็นเวลานานอาจทำให้เส้นผมของคุณแห้ง เปราะ และเสียหายได้ 

หรือถ้าใครไม่อยากสวมหมวกให้เสียทรงและไม่อยากถือร่ม ก็สามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมที่มีค่า SPF ซึ่งมีคุณสมบัติในการปกป้องเส้นผมจากแสงแดดก็ได้เช่นกัน 

ใช้ Clarify Shampoo บำรุงเส้นผม

สำหรับแสงแดดที่ร้อนแรงในฤดูร้อน การใช้แชมพูแบบธรรมดาอาจไม่เพียงพอในการดูแลเส้นผม ดังนั้นอีกหนึ่ง Summer Hair Care แนะนำก็คือ การใช้ Clarify Shampoo ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยจัดการกับคราบเหงื่อไคลสะสม รวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ ให้ออกจากเส้นผมและหนังศีรษะได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากในฤดูร้อนเส้นผมของเราต้องเจอกับสิ่งสกปรกมากกว่าปกติ และเมื่อเกิดการสะสม ก็อาจทำให้เส้นผมของเราแห้งเสียได้

Aveda Purifying Scalp Cleanser

การใช้ Clarify Shampoo สามารถช่วยขจัดสิ่งสกปรกเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผมของคุณรู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวา นอกจากนี้ Clarify Shampoo บางยี่ห้อยังมีส่วนผสมที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากรังสียูวีได้อีกด้วย

อย่าสระผมบ่อยเกินไป

การสระผมบ่อยเกินไปจะทำให้เกิดการดึงน้ำมันตามธรรมชาติออกจากเส้นผม ทำให้ผมแห้งและเปราะบาง อีกทั้งเมื่อสระผมเสร็จแล้วเรายังไม่ควรใช้ความร้อนเป่าผมให้แห้ง เพราะจะยิ่งทำให้ผมเสียหนักขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องปกติของช่วงหน้าร้อนที่เหงื่อออกมากเป็นพิเศษ ทำให้รู้สึกอยากสระผมบ่อยครั้งขึ้น แต่หากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง หรือถ้าทนไม่ไหวจริง ๆ อีกหนึ่ง Summer Hair Care แนะนำที่เหมาะกับคนที่ชอบสระผมบ่อยก็คือ การใช้ดรายแชมพูที่จะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับเส้นผม และไม่ทำให้สูญเสียน้ำมันในเส้นผมมากจนเกินไป

รักษาความชุ่มชื้นของเส้นผม

ความร้อนที่เพิ่มขึ้นในฤดูร้อนเป็นสาเหตุทำให้ผมแห้งและชี้ฟู ดังนั้นเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้อยู่คู่กับเส้นผม อีกหนึ่ง Summer Hair Care ที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ง่าย ๆ ก็คือการใช้ทรีตเม้นต์มาส์กเส้นผม (Deep conditioners) สัปดาห์ละครั้ง เนื่องจากผลิตภัณฑ์นี้จะซึมซาบเข้าสู่แกนผม และช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกใช้ครีมนวดผมแบบไม่ต้องล้างออกเพื่อให้ผมชุ่มชื้นตลอดทั้งวันได้อีกด้วย 

หรือใครจะเลือกใช้วิธีที่เรียบง่าย แต่ให้ผลลัพธ์ในการคงความชุ่มชื้นของเส้นผมเอาไว้ ด้วยวิธีการดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อเป็นการทดแทนความชุ่มชื้นที่สูญเสียไป ก็สามารถทำได้เช่นกัน 

เปลี่ยนสไตล์ผมสู้แดด

หน้าร้อนถือเป็นฤกษ์งามยามดีในการเปลี่ยนสไตล์ทรงผม เพราะนอกจากลุคที่เปลี่ยนไปจนอาจทำให้ใครหลายคนต้องเหลียวมองแล้ว การเปลี่ยนทรงผมยังเป็น Summer Hair Care ที่ช่วยปกป้องเส้นผมให้สู้แดดได้ดีอีกวิธีหนึ่ง ตัวอย่างเช่น การถักเปีย บิดเกลียว หรือการมัดมวยผม ล้วนสามารถช่วยปกป้องเส้นผมจากแสงแดดและความร้อนได้ อีกทั้งยังช่วยลดการแตกหัก ชี้ฟู ส่งผลให้เส้นผมของคุณดูเงางามและมีสุขภาพดีได้ในที่สุด  

ผมเสียมากใช้อะไรดี แนะนำผลิตภัณฑ์

แปรงผมอย่างอ่อนโยน

การแปรงผมควรทำอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน ยิ่งในช่วงหน้าร้อน ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวัง สำหรับอีกหนึ่งเคล็ดลับ Summer Hair Care  ที่ใคร ๆ ก็นำไปใช้ได้ คือการเลือกใช้หวีซี่ห่างเพื่อสางผม และหลีกเลี่ยงการดึงปมผม นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการแปรงผมในขณะที่ผมเปียก เพราะผมที่เปียกมีแนวโน้มที่จะทำให้ผมเสียได้ง่าย ซึ่งในการทำผมให้แห้งนั้น ควรใช้ผ้าขนหนูค่อย ๆ เช็ดผมให้แห้ง ก็จะเป็นการปกป้องเส้นผมจากการถูกทำร้ายได้อีกวิธีหนึ่ง 

หมั่นเล็มผมเป็นประจำ

Summer Hair Care อีกหนึ่งวิธีที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอในหน้าร้อน คือการหมั่นเล็มผมเป็นประจำ เพราะนอกจากจะเป็นวิธีที่จำเป็นต่อการดูแลเส้นผมให้แข็งแรงและป้องกันการแตกปลายในช่วงฤดูร้อนแล้ว เส้มผมยังจะแตกปลายได้ง่ายเมื่อโดนแสงแดด ดังนั้นการเล็มผมเป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ผมแข็งแรงและป้องกันการขาดหลุดร่วง รวมถึงช่วยให้ผมของคุณยาวเร็วและมีสุขภาพดีขึ้นด้วย 

ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม

สารเคมีในผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมบางชนิดอาจรุนแรงต่อเส้นผมและหนังศีรษะเกินไป โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่เส้นผมบอบบางเป็นพิเศษ ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ Summer Hair Care ข้อสุดท้ายที่อยากแนะนำก็คือ การมองหาผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่ผลิตจากส่วนผสมธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ น้ำมันมะพร้าว และเชียร์บัตเตอร์ โดยส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยให้ผมชุ่มชื้นและมีสุขภาพดี ในทางตรงกันข้าม ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมที่มีส่วนผสมของสารซัลเฟตและพาราเบน ที่มีฤทธิ์ในการดูดซึมน้ำมันในเส้นผม

สู้ทุกแดดด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผมจาก MOGA

Aveda Botanical Repair Intensive

Aveda Botanical Repair Intensive

 Milbon Repair Restorative Treatment

Milbon Repair Restorative Treatment

สำหรับใครที่มีปัญหาผมเสียมากใช้อะไรดีโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนที่เส้นผมโดนแสงแดดทำร้ายมากเป็นพิเศษ ที่ MOGA มีผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก ไม่ว่าจะเป็น Aveda Botanical Repair Intensive Strengthening Masque Rich, Milbon Repair Restorative Treatment และอีกหลากหลายผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณสมบัติช่วยปกป้องเส้นผมจาก UV พร้อมชำระล้างเหงื่อและช่วยทำความสะอาดหนังศีรษะ ป้องกันการอุดตัน อีกทั้งใช้แล้วยังรู้สึกหนังศีรษะเย็นสบายสดชื่น ช่วยให้เส้นผมของคุณกลับมานุ่มสลวย สุขภาพดีดังเดิมได้แบบไม่ต้องกลัวแดด สามารถเลือกซื้อได้ที่ MOGA ร้านซาลอนญี่ปุ่นที่ดูแลผมคุณด้วยความใส่ใจ สามารถเข้าใช้บริการได้ทุกสาขา ทั้งที่ Central Embassy, Siam Paragon, Emquartier, Central Chidlom, Centralworld,และ Iconsiam หรือติดต่อขอรับคำแนะนำการดูแลเส้นผมจากช่างผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยที่ LINE: @MOGA

แนะนำสีผมปิดหงอก ที่ช่วยให้ดูอ่อนเยาว์

สีผมปิดหงอกสุดปัง ดูเป็นธรรมชาติ อ่อนเยาว์ สดใสกว่าเดิม

“ผมหงอก” ไม่ได้มีสาเหตุมาจากอายุที่เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่สามารถเกิดได้จากความเครียดและพันธุกรรม ปัญหาผมหงอก ยังอาจทำให้ความมั่นใจของเราลดน้อยลงไปได้อีกด้วย วันนี้เราจะพาทุกคนไปย้อนวัย แต่จะไม่ใช่แค่การทำสีผมปิดหงอกเท่านั้น แต่ยังจะช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์และสวยใสได้มากกว่าเดิมด้วยนะ! 

เลือกสีผมปิดหงอกผมสีไหนดี?

ที่จริงแล้ว หากว่าเราต้องการทำสีผมปิดหงอก ไม่ว่าอายุเท่าไร ก็ไม่ต้องกังวลใจไปว่าสีผมเฉดที่เราชอบจะทำให้ดูสูงวัยขึ้น เพราะเราสามารถเลือกได้เกือบทุกเฉดสีตามที่เราต้องการ แต่แนะนำให้เลือกให้เข้ากับสีผิวของเราก็จะเหมาะสมที่สุด

สีผมที่แนะนำ สำหรับปิดผมหงอก

สีน้ำตาลเข้ม

สำหรับใครที่ยังอยากคงสีผมธรรมชาติของคนเอเชีย แต่ไม่อยากให้หน้าดูดุ ลองเลือกทำผมสีน้ำตาลเข้ม เป็นสีผมปิดหงอกที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน โดยจะทำให้ใบหน้าดูหวานละมุนมากกว่าสีดำ ที่สำคัญสีผมน้ำตาลเวลาออกแดดจะดูเจิดจ้า เวลาถ่ายรูปกลางแจ้งก็จะเปล่งประกายสดใสและสวยงาม เรียกว่าเป็นสีผมที่เหมาะกับหนุ่มสาวเอเชียทุกสไตล์และทุกวัย

สีน้ำตาลแดง

ใครที่อยากทำสีผมปิดหงอกที่ทำให้หน้าสว่างสดใสมากขึ้น แนะนำให้เปลี่ยนจากโทนน้ำตาลเข้มเป็นน้ำตาลแดง ซึ่งเป็นอีกสีที่เหมาะกับคนผิวสองสี และเข้ากับสีผิวของคนเอเชียแบบสุด ๆ เพราะจะช่วยขับให้ผิวดูสุขภาพดี สำหรับสาว ๆ เวลาแต่งหน้า ปัดแก้มให้อมชมพูนิด ๆ ก็จะช่วยให้สวยแบบสุขภาพดี ดูเป็นธรรมชาติ อ่อนกว่าวัย

สีดำเหลือบน้ำเงิน

ใครที่ต้องการเลือกใช้สีดำในการปิดผมหงอก อยากให้ลองเปลี่ยนเฉดดำสนิทมาใช้สีดำเหลือบน้ำเงินเข้ม ที่ดูเผิน ๆ จะเป็นสีผมดำธรรมชาติทั่วไป แต่เวลาออกแดดจะเห็นเป็นเหลือบน้ำเงินเข้ม ข้อดีของการทำสีดำเหลือบน้ำเงินเข้มคือ สามารถกลบผมขาวได้อย่างแนบเนียนและดูเป็นธรรมชาติมากกว่าสีดำสนิท

สีผมที่ไม่แนะนำ สำหรับปิดผมหงอก

สีน้ำตาลทอง

แม้ผมสีน้ำตาลจะเป็นสีผมที่ใกล้เคียงกับสีผมตามธรรมชาติของคนเอเชียมากที่สุด แต่เราก็ไม่แนะนำให้ใช้โทนสีน้ำตาลทองหรือสีน้ำตาลอ่อน เพราะหากว่าเรามีผมหงอกอยู่จำนวนมาก สีผมจะเป็นประกายทองเป็นหย่อม ๆ ดูไม่เป็นธรรมชาติ และคนอาจจะจับได้ว่าทำสีผมปิดหงอก ทำให้ขาดความมั่นใจได้

สีดำสนิท

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงไม่แนะนำให้ทำสีผมดำสนิท นั่นเป็นเพราะแม้ว่าสีผมดำสนิทจะสามารถปกปิดผมขาวได้อย่างเนียนสนิท และเป็นสีผมธรรมชาติของเรา แต่หากว่าเราอยากจะทำสีผมสีอื่น ๆ ทางเดียวที่เราทำได้คือ ต้องล้างและฟอกสีผมเท่านั้น แต่สีผมที่ดำสนิทเกินไปก็อาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติ ดังนั้น ลองใช้สีน้ำตาลเข้ม หรือดำเหลือบน้ำเงินจะดีกว่า 

ผลิตภัณฑ์ทำสีผมปิดหงอกคุณภาพเยี่ยมที่ MOGA คัดสรรมาเพื่อคุณ

ในการทำสีผมปิดหงอก MOGA เราจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมที่ให้สีผมที่ดูเป็นธรรมชาติ และลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการแพ้ 

  • Wella Kolestone Perfect ME+ ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมถาวร ช่วยให้สีผมดูเป็นธรรมชาติ ไม่กระด้างเหมือนกับผลิตภัณฑ์สีผมทั่วไป พร้อมปกป้องเส้นผมจากการสูญเสียเคราติน เหมาะกับผมคนเอเชียโดยเฉพาะ และยังเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ ลดความเสี่ยงที่ทำให้เกิดการแพ้ 
  • AVEDA Full Spectrum ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมกึ่งถาวร สกัดจากธรรมชาติ 98% ช่วยถนอมหนังศีรษะ เหมาะกับคนที่มีหนังศีรษะบอบบาง แพ้ง่าย หรือสามารถใช้สลับกับน้ำยาเปลี่ยนสีผมถาวรได้เช่นเดียวกัน 

การดูแลสีผมปิดหงอก ให้ติดทนนาน

การดูแลสีหลังทำผม

หลังจากทำสีผมแล้ว เราควรดูแลให้สีผมติดทนนาน ผมสวยสุขภาพดี ไม่แห้งเสีย  

  • งดสระผมหลังจากทำสีผม 2-3 วัน เพื่อให้สีผมติดทนนาน และไม่เฟดเร็ว 
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับทำสีผมโดยเฉพาะ ใครที่อยากให้สีผมติดทน และนุ่มสลวย ไม่แห้งเสีย ไม่มี SLS หรือแอลกอฮอล์ที่ทำให้สีผมหลุดลอกได้ง่าย 
  • ใช้สเปรย์ป้องกันความร้อน ก่อนไดร์หรือหนีบผม หรือแม้กระทั่งก่อนออกแดดกลางแจ้ง 
  • ก่อนลงสระว่ายน้ำให้ใช้ Leave-In ก่อนทุกครั้ง โดยเฉพาะสระว่ายน้ำคลอรีน เพราะนอกจากจะทำให้สีผมเปลี่ยน ยังจะทำให้ผมแห้งเสียอีกด้วย 

แนะนำ 3 ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยดูแลผมทำสี

 

เซรัมดูแลผมที่ผ่านการฟอกสี ให้กลับมาแข็งแรง เรียบลื่น ไม่ชี้ฟู จัดทรงง่าย

Milbon Elujuda Bleach Care Gel Serum

Milbon Elujuda Bleach Care Gel Serum เซรัมดูแลผมที่ผ่านการฟอกสี ให้กลับมาแข็งแรง เรียบลื่น ไม่ชี้ฟู จัดทรงง่าย

มาสก์ผมเข้มข้น ช่วยบำรุงและคงสีผมให้ติดทนนาน และช่วยให้ผมเงางาม เปล่งประกาย ดูสุขภาพดี

System Professional Color Save Mask

System Professional Color Save Mask มาสก์ผมเข้มข้น ช่วยบำรุงและคงสีผมให้ติดทนนาน และช่วยให้ผมเงางาม เปล่งประกาย ดูสุขภาพดี

 

 

เหมาะสำหรับคนที่ผมแห้งเสียจากการทำสีผม จะช่วยบำรุงและฟื้นฟูผมเสียจากการทำสีผม

AVEDA Botanical Repair

AVEDA Botanical Repair™ เหมาะสำหรับคนที่ผมแห้งเสียจากการทำสีผม จะช่วยบำรุงและฟื้นฟูผมเสียจากการทำสีผม

ทำสีผมแล้วอย่าลืมดูแลผมทำสี MOGA เรามีทรีทเมนท์บำรุงผมทำสีที่ช่วยดูแลผมอย่างล้ำลึก ดูแลถึงแกนผม ช่วยให้ผมติดทนนาน ไม่แห้งเสีย สามารถเลือกซื้อได้ที่ MOGA ร้านซาลอนญี่ปุ่นที่ดูแลผมคุณด้วยความใส่ใจ สามารถเข้าใช้บริการได้ทุกสาขา ทั้งที่ Central Embassy, Siam Paragon, Central World, Emquartier, Iconsiam, Central Chidlom  หรือติดต่อขอรับคำแนะนำการดูแลเส้นผมจากช่างผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยที่ LINE: @MOGA