ผมเสียมีกี่ระดับ…ยิ่งรู้ยิ่งป้องกันได้ดี!

“ผมเสีย” คือปัญหาที่กวนใจหลายคนอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะคุณสุภาพสตรีที่เมื่อผมเสียก็พาลทำให้รู้สึกขาดความมั่นใจในเรื่องอื่น ๆ ไปด้วย อย่างไรก็ตาม ปัญหาผมเสียสามารถแก้ไขได้ หากเรารู้จักสาเหตุของการเกิดปัญหาดีพอ ดังนั้น บทความนี้จึงจะมาอธิบายเรื่องปัญหาผมเสีย พร้อมกับไปรู้กันว่าผมเสียมีกี่ระดับ และปัญหาผมเสียเกิดจากอะไรบ้าง เพื่อหาวิธีดูแลได้อย่างเหมาะสม ติดตามได้เลย

อาการของผมเสีย

เพื่อที่จะได้เข้าใจว่าผมเสียมีกี่ระดับได้อย่างรอบด้าน เราต้องมารู้ถึงอาการผมเสียเกิดจากอะไรกันก่อน โดยสามารถสรุปเป็นข้อ ๆ ได้ดังต่อไปนี้

  • ผมแห้ง: ผมแห้งคืออาการที่เกิดขึ้นก่อนผมเสีย เกิดจากเกล็ดผมเปิดทำให้ผมไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ และยิ่งเกล็ดผมเปิดมากเท่าไร ก็ยิ่งมีโอกาสที่เนื้อผมด้านในจะเสียหายได้ง่าย นำไปสู่อาการผมเสียในท้ายที่สุด ดังนั้น ถ้ารู้ตัวว่าผมแห้งมาก สิ่งที่ควรทำไม่ใช่การใช้ผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูผมเสีย เพราะถือเป็นการแก้ไม่ตรงจุด และอาจทำให้ผมแห้งยิ่งขึ้น แต่ควรบำรุงเส้นผมด้วยผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นที่ช่วยปิดเกล็ดผม เพื่อป้องกันไม่ให้ผมแห้งกลายเป็นผมเสียได้
  • ผมแตกปลาย: ปลายผมแยกออกเป็นสองแฉกหรือมากกว่านั้น ชี้ฟู ขาดน้ำหนัก สาเหตุเกิดจากโครงสร้างของเส้นผมถูกทำลาย ส่วนสาเหตุก็มีได้ทั้งการสระผมบ่อยเกินไป การสัมผัสกับความร้อน ไปจนถึงการที่เส้นผมขาดสารอาหารบางชนิด เช่น ซิลิกา โปรตีน และวิตามินอี
  • ผมขาดหลุดร่วงง่าย: ผมหลุดร่วงมากกว่าปกติ สังเกตเห็นผมร่วงติดอยู่ที่หวี หมอน หรือเสื้อผ้า สาเหตุอาจเกิดได้หลายปัจจัย เช่น กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน ภาวะเครียด โรคบางชนิด การขาดสารอาหารบางชนิด เช่น ธาตุเหล็ก สังกะสี และวิตามินบี 12
  • ผมไม่มีวอลลุ่ม: ผมดูบาง ลีบแบน ไม่ฟู โดยเริ่มจากเส้นผมขาดน้ำหนัก ผมไม่มีวอลลุ่ม ส่วนสาเหตุ ก็มีหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นการขาดสารอาหารบางชนิด เช่น ไบโอติน และวิตามินบี 12 การยืดผม ดัดผม ทำสีผม รวมถึงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีส่วนผสมของสารเคมี
  • ผมชี้ฟู: ผมไม่เรียบลื่น ชี้ฟูไม่เป็นทรง สาเหตุเกิดจากเส้นผมขาดความชุ่มชื้น ปัจจัยที่ทำให้เกิดผมชี้ฟู ก็เช่นเดียวกับอาการอื่น ๆ ทั้งการสระผมบ่อย มีเหตุให้ต้องสัมผัสกับความร้อน ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่มีส่วนผสมของสารเคมี การขาดสารอาหารบางชนิด เช่น วิตามินเอ และวิตามินอี

 

ผมเสียมีกี่ระดับ?

สำหรับอาการผมเสียสามารถแบ่งได้หลายระดับ ลองมาสังเกตกันว่า เส้นผมของเราเข้าข่ายในระดับใด จะได้หาทางรักษาได้อย่างทันท่วงที

  • ระดับที่ 1 ผมแห้งแตกปลาย: อาการของผมแห้งแตกปลาย คือผมจะแห้งเสีย ขาดความเงางาม แตกปลาย พันกันง่าย จับตัวเป็นก้อน ขาดง่ายเมื่อดึง
  • ระดับที่ 2 ผมฟู ไม่มีน้ำหนัก: เมื่อผ่านระดับที่ 1 เข้าสู่ระดับนี้ ผมจะเริ่มฟู ไม่มีน้ำหนัก รวมถึงแห้งเสียเพิ่มขึ้น ลีบแบน ขาดความยืดหยุ่น พันกันง่าย จับตัวเป็นก้อน
  • ระดับที่ 3 ผมเปราะ ขาดง่าย: ในระดับนี้ผมจะแห้งเสียมาก ขาดความยืดหยุ่น ขาดง่าย เมื่อดึงเพียงเล็กน้อยก็ขาดได้

 

ผมเสียเกิดจากอะไร ต้องป้องกันอย่างไรบ้าง

ดูแลอย่างไรเมื่อผมเสีย?

หลังจากที่รู้แล้วว่าผมเสียมีกี่ระดับ ก็ถึงเวลาของการหาวิธีบำรุงฟื้นฟูเส้นผมให้กลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ถ้าสังเกตตัวเองแล้วพบว่าผมเสียของคุณอยู่ในระดับที่ 3 แล้ว แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยทันที เนื่องจากสภาพเส้นผมที่เปราะบางมาก ยากที่จะดูแลได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้ายังอยู่ในระดับที่ 1-2 สามารถฟื้นฟูเส้นผมด้วยวิธีเบื้องต้นดังต่อไปนี้

  • สระผมด้วยน้ำเย็นหรือน้ำอุ่น ไม่ควรสระผมด้วยน้ำร้อน เพราะจะทำให้เส้นผมแห้งเสียมากขึ้น ควรสระผมด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยน ที่ช่วยทำความสะอาดโดยไม่ทำให้ผมแห้งเสีย
  • ใช้ครีมนวดผมหลังสระผม ครีมนวดผมจะช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวย มีน้ำหนัก ช่วยลดการแตกปลาย
  • ควรหวีผมขณะผมเปียกหมาด ๆ ใช้หวีซี่ห่าง หวีผมเบา ๆ เพื่อป้องกันผมขาดร่วง
  • หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับผม หากจำเป็นต้องใช้ความร้อนกับผม ควรใช้ความร้อนในระดับต่ำ และควรใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนทุกครั้ง
  • เล็มปลายผมเป็นประจำ ควรเล็มปลายผมทุก 2-3 เดือน เพื่อตัดส่วนที่แห้งเสียออกไป
  • รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ นม ผักใบเขียว ผลไม้สด เป็นต้น เนื่องจากในอาหารเหล่านี้มีสารที่จำเป็นต่อสุขภาพเส้นผม
  • พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะในตอนที่เราหลับร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงเส้นผมด้วย ดังนั้นหากเราพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายก็จะหลั่งโกรทฮอร์โมนได้น้อยลง ส่งผลให้เส้นผมเจริญเติบโตช้าลง และมีโอกาสหลุดร่วงมากขึ้น

 

นอกจากการดูแลผมเสียด้วยวิธีข้างต้นแล้ว อาจใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผมอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น ทรีทเมนต์ผม น้ำมันบำรุงผม เซรั่มบำรุงผม เป็นต้น

สำหรับใครที่กำลังหนักใจกับปัญหาผมเสีย สามารถแวะเข้ามาที่ร้านทำผมโดยช่างมืออาชีพ

เพื่อรับคำปรึกษาได้เลยที่ MOGA ร้านทำผมพรีเมี่ยมสไตล์ญี่ปุ่นทุกสาขา ทั้งที่ Central Embassy, Siam Paragon, Central World, Emquartier, Iconsiam และ Central Chidlom หรือติดต่อขอรับคำแนะนำการดูแลเส้นผมจากช่างผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยที่ LINE: @MOGA

 

ข้อมูลอ้างอิง

  1. How to Repair Damaged Hair, According to Experts. สืบค้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 จาก https://www.vogue.com/article/damaged-hair
  2. A Visual Guide to Hair Damage and 15 Ways to Fix It. สืบค้นเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2567 จาก https://www.healthline.com/health/beauty-skin-care/damaged-hair