3 เทรนด์ สีผมปรับลุคให้ผิวไบร์ทที่มาแรงในปี 2024
เรื่องของภาพลักษณ์และความสวยงามกับผู้หญิง เป็นของคู่กันที่ให้หยุดพัฒนาคงเป็นไปไม่ได้! นั่นทำให้ “สีผม” กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์และบุคลิกของแต่ละบุคคล โดยสีผลที่เหมาะกับบุคลิกนอกจากจะทำให้ดูดีขึ้นแล้ว ยังช่วยขับให้ผิวดูไบร์ท ซึ่งอาจพูดได้ว่า “สีผม” คือตัวกำหนดบุคลิกของผู้หญิงแต่ละคนเลยก็ว่าได้
สำหรับใครที่ชื่นชอบการทำสีผม ต้องไม่พลาดกับ Trends สีผมในปี 2024 นี้ ที่บอกได้เลยว่าน่าสนใจอย่างมาก แต่จะมีสีไหนมาแรงแซงโค้ง พร้อมช่วยขับสีผิวให้สวยสมใจบ้าง ไปอัปเดตพร้อมกันได้เลย
Trends สีผมปรับผิวไบร์ทมาแรงในปี 2024
1. สีแซนด์บลอนด์ (Sand blond)
สำหรับสีแรก คงต้องยกให้เป็น Trends สีผมมาแรงแห่งปีจริง ๆ สำหรับ “สีแซนด์บลอนด์” โทนออกน้ำตาลติดบลอนด์แบบสว่างที่ช่วยขับผิวให้ดูไบร์ทได้ทุกอันเดอร์โทน เหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนลุคให้ดูเรียบหรู ดูแพง เข้ากับโทนเมคอัพทุกแบบ ไม่ว่าจะแต่งเฉี่ยว แต่งสโมคกี้อาย หรือจะแต่งสไตล์เกาหลีก็เข้ากันได้แบบไม่ขัดตา ที่สำคัญยังเป็นสีที่เหมาะกับผิวชาวเอเชียมาก ๆ อีกด้วย ใครที่กลัวว่าจะหน้าจืด ผิวซีด บอกเลยว่าสีนี้ยังไงก็ผ่าน
By ช่าง Nat, MOGA EMQUARTIER
2. สีเชอร์รี่ โคล่า (Cherry Cola)
ยกตัวอย่าง Trends สีผมติดบลอนด์เฉดสว่างกันไปแล้ว จะไม่พูดถึงเฉดสีน้ำตาลติดแดงก็คงไม่ได้ เห็นได้จากกระแสนิยมบนโซเชียลมีเดียที่มาแรงตั้งแต่ต้นปี กับสีผมฮิต ๆ อย่างสีแดง สีประกายสนิม หรือที่เรียกกันว่าสีโค้ก โดยเฉพาะสีเชอร์รี่ โคล่า ซึ่งสีนี้ถือว่ามาแรงสุด ๆ แต่ถึงแม้จะมองผิวเผินแล้วดูเป็นโทนสุภาพ แต่ด้วยลูกเล่นเหลือบแดง ทำให้ได้ลุคที่มีความซุกซนเบา ๆ ดูไม่ซ้ำซากจำเจ
สำหรับสีนี้จะเหมาะกับคนที่ยังตัดใจจากสีแฟชั่นจากปีที่แล้วไม่ได้ แต่ก็ไม่อยากทำสีฉูดฉาดอีกต่อไป ส่วนข้อควรระวังสำหรับผม “สีเชอร์รี่ โคล่า” ก็คือ ต้องมั่นใจว่าตัวเองเป็นคนที่โทนผิวกลาง ๆ ไม่คล้ำหรือสว่างมากจนเกินไป เพราะสีผมสีนี้อาจไม่เหมาะกับทุกเฉดสีผิว ส่วนอันเดอร์โทนก็สามารถทำได้ทั้งร้อนและเย็น ขึ้นอยู่กับช่างประเมิน และทำการปรับเม็ดสีให้ระหว่างการผสมสี
By ช่าง Aom, MOGA CENTRAL CHIDLOM
3. สีแอปริคอต (Apricot)
ปิดท้าย Trends สีผมประจำปี 2023 กับ “สีแอปริคอต” ผมสีส้มอมแดงสว่างแบบสาวดาวิกา ที่เหมาะกับคนผิวขาวและผิวสีกลาง ๆ ทุกอันเดอร์โทน ทำแล้วช่วยขับสีผิวให้สว่าง สดใส ใครมองหาสีผมขับผิวไบร์ทแบบสุด ๆ ก็ต้องย้อมสีนี้เท่านั้น แถมยังเป็นในหนึ่งเฉดสีแฟชั่นเดียวที่หลุดรอดเข้ามาใน Trends สีผมปีนี้ ใครอยากปรับลุคใหม่ ดูสดใส ต้องห้ามพลาด
MOGA CENTRAL EMBASSY
อยากอัปเดตตาม Trends ต้องกัดสีผมหรือไม่?
แน่นอนว่าทุกการเปลี่ยนสีผม ไม่ว่าจะย้อมตาม Trends สีผมหรือย้อมสีไหน ๆ ก็จำเป็นต้องปรับพื้นสีผมให้ได้ความสว่างที่เหมาะสมเสียก่อน เพื่อลงสีให้ออกมาได้ตรงปกมากที่สุด ในขณะเดียวกันสีที่ผ่านการย้อมมาแล้วถึงแม้พื้นผมจะมีสีอ่อนแต่โคนผมดำ ก็ต้องล้างและกัดสีใหม่เพื่อปรับพื้นสีผมให้มีความสม่ำเสมออยู่ดี ดังนั้น ทางเลือกที่ดีที่สุดจึงควรเปลี่ยนสีผมจากช่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันผมด่าง สีไม่สม่ำเสมอ หรือผมช็อตจนขาดหลุดร่วง
ระดับเฉดความสว่างที่เหมาะกับสีผม
- เฉดสีส้ม-ทองแดง (ระดับความสว่าง 4-6) เหมาะสำหรับผมที่จะทำสีเชอร์รี่ โคล่า สีแอปริคอต บลอนด์ส้ม บลอนด์แดง บลอนด์มะฮอกกะนี และคอปเปอร์
- เฉดสีเหลือง (ระดับความสว่าง 7-9) เหมาะสำหรับผมที่จะทำสีแซนบลอนด์ บลอนด์ทอง บลอนด์เขียว บลอนด์หม่นเขียวอมเทา สีม่วงเข้ม
- เฉดสีเหลืองอ่อนมากถึงสีขาว (ระดับความสว่าง 10-12) เหมาะสำหรับผมที่จะทำสีแนวพาสเทลทุกสี เช่น สีส้ม สีชมพู สีม่วง น้ำเงิน และเทา
ทั้งนี้ ก่อนทำสีอย่าลืมปรึกษาช่างและทำการเทสผมก่อน เพื่อความปลอดภัยจากการลงเคมี ซึ่งถ้าไปที่ร้านซาลอนชั้นนำก็จะหมดห่วง เพราะช่างจะช่วยให้คำปรึกษา พร้อมตรวจสภาพเส้นผม และดูความเหมาะสมก่อนทำสี ในกรณีที่ผมของลูกค้าท่านไหนไปไม่ไหวก็จะแนะนำให้ทำทรีตเมนต์เพื่อฟื้นฟูเส้นผมแทน
ทำเคมีแล้วต้องรู้! วิธีช่วยฟื้นฟูผมเสียจากการทำสี
แต่สำหรับคนที่ได้สีผมสวย ๆ ไปแล้วก็อย่าลืมบำรุงและดูแลอยู่เสมอ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการฟื้นฟูสภาพผมที่เสียจากการทำสีให้กลับมาเงางาม ส่วนวิธีการดูแลก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ทั้งที่บ้านและการเข้าซาลอน ส่วนจะต้องทำอะไรบ้าง ด้านล่างนี้มีคำตอบ
ปรับสภาพเส้นผมอย่างล้ำลึก พร้อมฟื้นฟูความชุ่มชื้น
สำหรับคนที่รู้สึกว่าผมเสียมากใช้อะไรดี ให้ลองมองหาผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสีที่มีส่วนประกอบของเคราติน เพราะมีคุณสมบัติช่วยเติมช่องว่างในแกนผม พร้อมซ่อมแซมความเสียหายจากการทำสีให้กลับมาแข็งแรง ไม่ขาดร่วงง่าย อีกทั้งยังช่วยลดผมชี้ฟู ทำให้ผมที่ทำสีมาสลวยเงางาม นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมสำคัญอย่างอาร์แกนออยล์ที่ช่วยฟื้นฟูความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึก พร้อมป้องกันผมแตกปลายที่เกิดจากการทำเคมีอีกด้วย
นอกจากนี้ การเข้าซาลอนเพื่อไปทำทรีตเมนต์อย่างสม่ำเสมอ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว เพราะที่ร้านจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดสำหรับใช้กับปัญหาเส้นผมของแต่ละบุคคล รับรองได้ว่าหมดปัญหาผมเสียจากการทำสีแน่นอน
ตัดแต่งทรงผม และส่วนที่เสียเพื่อกระตุ้นให้ผมเกิดใหม่
ในกรณีที่ผมเสียหนักมากจนเกิดอาการปลายผมช็อต ผมแตกปลายหนัก ๆ คุณสามารถเล็มปลายผมได้เองที่บ้าน เพื่อจัดการเอาผมแห้งเสียออกแล้วกระตุ้นการเกิดใหม่ หรือจะเข้าซาลอนเพื่อให้ช่างเป็นคนดูแลโดยตรง เพราะนอกจากช่างจะช่วยจัดการผมแตกปลายแล้ว ยังช่วยอำพรางผมเสียให้ดูสุขภาพดีขึ้น เป็นทรงและง่ายต่อการจัดแต่งอีกด้วย
หมั่นเข้าร้านทำผม เพื่อรับการดูแลอย่างล้ำลึกจากมืออาชีพ
วิธีสุดท้ายที่ขอแนะนำ คือการเข้าไปใช้บริการกับร้านทำผมเพื่อการดูแลอย่างล้ำลึกจากมืออาชีพอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อทำทรีตเมนต์ฟื้นฟูผม รวมถึงการเติมโคน ดูแลความสม่ำเสมอของสี นอกจากนี้ ยังสามารถขอคำแนะนำเพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดต่อการรักษาสีผม ไปพร้อม ๆ กับการฟื้นฟูเส้นผมอย่างถูกวิธี
หากใครที่อยากทำสีผมใน Trends ของปีนี้ แต่กลัวผมจะเสียจากการทำสี หรือได้สีที่ไม่สม่ำเสมอ สามารถเข้ามาปรึกษาและรับบริการได้เลยที่ MOGA ร้านซาลอนพรีเมียมสไตล์ญี่ปุ่น พร้อมให้คำแนะนำสำหรับคนที่รู้สึกว่าผมเสียมากใช้อะไรดี เพราะที่นี่เรามีผลิตภัณฑ์ทรีตเมนต์บำรุงผมทำสี ที่สามารถช่วยดูแลสีผมไม่ให้เฟดไว พร้อมบำรุงเส้นผมให้นุ่มสลวยตั้งแต่โคนจรดปลาย
สามารถเข้ามาใช้บริการทำผมตาม Trends และย้อมสีผม รวมถึงบริการอื่น ๆ ได้ทุกสาขาทั้ง Central Embassy, Siam Paragon, CentralWorld, Emquartier®, Iconsiam, Central Chidlom หรือติดต่อขอรับคำแนะนำการดูแลเส้นผมจากช่างผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยที่ LINE: @MOGA
Comments are closed.